How to ทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ผ้านวมให้สะอาดหมดจด!

วิธีทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ผ้านวม


ห้องนอนคือหนึ่งในสถานที่ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เป็นพื้นที่พิเศษที่ต้องได้รับอนุญาตถึงจะสามารถเข้าถึงได้ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีอีกหนึ่งตัวร้ายที่ไม่ได้รับเชิญแต่แฝงตัวมากับเสื้อผ้าที่สวมใส่นั่นก็คือ “เชื้อโรค” ที่ติดมากับเสื้อผ้าและผิวหนังของเรา สู่การกระจายตัวอยู่บนเครื่องนอนต่าง ๆ ในห้องนอน ถึงแม้เชื้อโรคเหล่านี้จะมีขนาดเล็ก แต่หากเกิดการสะสมเป็นเวลานาน อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นำโรคร้ายมาหาเราได้ ดังนั้นเราควรให้ความใส่ใจในเรื่องการทำความสะอาดเครื่องนอนเป็นประจำ และสำหรับใครที่กำลังอยากรู้ว่า จะมีวิธีทำความสะอาดเครื่องนอนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ผ้านวม (ไส้ผ้านวม ไมโครเจล)ให้สะอาดหมดจดได้อย่างไร วันนี้เรามี How to ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้มาฝากกัน

แหล่งเชื้อโรคในห้องนอนมาจากไหน

นอกจากเชื้อโรคที่ติดมาตามเสื้อผ้าและผิวหนัง ยังมีแหล่งเชื้อโรคอื่น ๆ ที่หลายคนมองข้ามไป และไม่ทันระวังตัว เพราะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

  • ไรฝุ่น - มักเกิดจากวัสดุที่เป็นเนื้อผ้าที่มีช่องว่างให้ไรฝุ่นสามารถอาศัยอยู่ได้ โดยเฉพาะบนที่นอน หมอนและผ้าห่ม จะมีไรฝุ่นสะสมเป็นจำนวนมาก เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ อาการของโรคหอบหืดเเละโรคทางเดินระบบหายใจอื่นๆ ตามมา
  • เศษสิ่งสกปรกหรือเซลล์ผิวหนังที่หลุดลอก - สำหรับบางคนที่มีอาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน เมื่อถึงห้องนอนก็อยากล้มตัวลงนอนเลย โดยไม่ได้อาบน้ำก่อน ทำให้หมอน เตียงนอนเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกต่าง ๆ รวมถึงเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของไรฝุ่น
  • คราบเหงื่อ - ในช่วงที่มีอากาศร้อนอาจทำให้ขณะที่เรานอนหลับ ร่างกายได้ขับเหงื่อออกมา ทำให้ที่นอน หมอน ผ้าห่มได้รับเหงื่อไปเต็ม ๆ หากไม่ได้ทำความเป็นประจำอาจจะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้

ชุดเครื่องนอนควรทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการสะสมของแหล่งเชื้อโรคสามารถเกิดได้จากหลายทาง ดังนั้นนอกจากการทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้าห้องนอนอยู่เป็นประจำแล้ว ควรมีตารางเวลาสำหรับทำความสะอาดเป็นประจำด้วย โดยในแต่ละเครื่องนอนจะมีช่วงเวลาในการทำความสะอาดดังนี้

  • ผ้าปูที่นอน : เป็นที่สะสมของน้ำ เหงื่อ และสิ่งสกปรกอื่น ๆ ควรซักสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  • ที่นอน : เป็นที่สะสมของกลิ่น เหงื่อ และคราบสิ่งสกปรกอื่น ๆ ควรซักทุก 6 เดือน
  • หมอน : เป็นที่สะสมของเหงื่อ สิ่งสกปรก และอาจมีเชื้อราหลายชนิด ควรซักทุก 3 เดือน
  • ผ้าห่ม : เป็นที่แหล่งสะสมเชื้อโรคและสิ่งสกปรกอื่น ๆ ควรซักเป็นประจำทุกเดือน
  • ผ้านวม/ไส้ผ้านวม : เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและสิ่งสกปรกอื่น ๆ ควรซักเป็นประจำทุกเดือน

วิธีทำความสะอาดชุดเครื่องนอนแต่ละชิ้น

ผ้าปูที่นอน : ไม่ควรซักรวมกับเสื้อผ้า เพราะเสื้อผ้าบางประเภทมีการตกแต่งวัสดุต่าง ๆ ในการออกแบบที่อาจไปทำลายผ้าปูที่นอนให้เกิดความเสียหายได้ โดยสามารถทำความสะอาดดังนี้

  1. สามารถทำความสะอาดโดยใช้เครื่องซักผ้าปกติ
  2. นำเข้าเครื่องอบผ้าเพื่อฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ
  3. นำไปตากแดดอ่อน ๆ ให้แสงยูวีขจัดกลิ่นอับต่าง ๆ

ที่นอน : สำหรับที่นอนเป็นเครื่องนอนที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก โดยสามารถทำความสะอาดดังนี้

  1. เริ่มกำจัดเศษสิ่งสกปรกด้วยเครื่องดูดฝุ่น
  2. ทำการขจัดคราบต่าง ๆ ให้เตรียมน้ำยาขจัดคราบกับแปรงขนาดเล็กเพื่อใช้ทำความสะอาด
  3. นำมาขัดเบา ๆ บริเวณคราบสกปรก
  4. นำที่นอนไปตากแดด เพื่อให้รังสียูวีฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ไรฝุ่น และกลิ่นต่าง ๆ ให้จางหายไป

หมอน : ให้ตรวจสอบข้อจำกัดในการทำความสะอาดจากป้ายคำแนะนำก่อน โดยหมอนแต่ละชนิดจะมีวิธีการทำความสะอาดที่ต่างกัน แต่ส่วนมากแล้วจะสามารถทำความสะอาดได้ดังนี้

  1. ทำความสะอาดคราบสกปรกด้วยการเตรียมน้ำยาขจัดคราบ
  2. นำไปเช็ดทำความสะอาดเฉพาะจุด
  3. สามารถนำไปซักด้วยเครื่องซักผ้าหรือจะทำการซักด้วยมือก็ได้เช่นกัน
  4. นำไปตากแดดเพื่อให้รังสียูวีฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ และลดกลิ่นอับชื้น

ผ้าห่ม : สำหรับผ้าห่มให้ตรวจสอบข้อจำกัดในการทำความสะอาดจากป้ายคำแนะนำก่อน หากไม่มีข้อจำกัดใด ๆ สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าหรือนำไปซักมือได้ โดยสามารถทำความสะอาดได้ดังนี้

  1. การซักด้วยเครื่องซักผ้า แนะนำให้นำผ้าห่มมาม้วน เพื่อให้มีขนาดเล็กลงแล้วนำลงปั่น จากนั้นให้นำผ้าขึ้นตากแดดโดยขยายผ้า คลี่ผ้าออกให้หมด แล้วผึ่งลมไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท
  2. การซักด้วยมือ ให้ผสมน้ำยาซักผ้าละลายกับน้ำสะอาด แล้วนำผ้าห่มลงไปแช่พร้อมขยี้จุดที่มีคราบเบา ๆ ขั้นตอนสุดท้าย ให้นำผ้าขึ้นตากแดดโดยขยายผ้า คลี่ผ้าออกให้หมด แล้วผึ่งลมไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก

ผ้านวม/ไส้ผ้านวม : สำหรับผ้านวมซึ่งมีทั้งแบบมีปลอกและไม่มีปลอก ให้ตรวจสอบข้อจำกัดในการทำความสะอาดจากป้ายคำแนะนำก่อน หากไม่มีข้อจำกัดในการซัก สามารถทำความสะอาดได้ดังนี้

  1. ทำความสะอาดคราบสกปรกด้วยการเตรียมน้ำยาขจัดคราบ
  2. เช็ดทำความสะอาดเฉพาะจุด
  3. แนะนำให้นำผ้านวมมาม้วน เพื่อให้ผ้ามีขนาดเล็กลงแล้วนำลงซัก
  4. นำผ้านวมใส่เครื่องซักผ้าให้เป็นระเบียบ โดยไม่ขยำเนื้อผ้าให้กองไปรวมกัน
  5. ก่อนซัก ให้นำผ้าแช่น้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที เพื่อเป็นการขจัดเชื้อโรค, เชื้อไวรัส, แบคทีเรียและไรฝุ่น
  6. เมื่อซักเรียบร้อยแล้ว ให้นำผ้าขึ้นตากแดดโดยขยายผ้า คลี่ผ้าออกให้หมด แล้วผึ่งลมไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก

สำหรับการซักไส้ผ้านวม สามารถทำตามวิธีการซักผ้าผ้านวมได้เลย แต่หากเป็นไส้ผ้านวมที่ทำจากเส้นใยไมโครเจล ที่มีสัมผัสที่อ่อนนุ่ม เบาสบาย ควรระวังเรื่องการซักทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ฟอกขาวหรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม หากไม่มีคราบเลอะหรือคราบฝังลึก แนะนำให้ดูดฝุ่นและฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวีก็เพียงพอแล้ว การซักทำความสะอาดชุดเครื่องนอนเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะช่วยให้สุขภาพร่างกายห่างไกลจากสิ่งสกปรก รวมถึงเชื้อโรคและแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย ที่สำคัญควรเลือกใช้ชุดเครื่องนอนที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับไปอีกขั้น หากใครที่กำลังสนใจซื้อเครื่องนอน Jviva ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องนอนแบบครบวงจรทั้ง ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ผ้านวมและไส้ผ้านวมผลิตจากเส้นใยไมโครเจลชั้นดี รวมถึงผลิตภัณฑ์จากขนห่านเทียม ที่ให้คุณสมบัติเทียบเท่ากับขนห่านจริง พร้อมสัมผัสที่นุ่มสบาย โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-461-8888